Jony Ive และการออกแบบบทใหม่ของอนาคต
Jony Ive และการออกแบบบทใหม่ของอนาคต
28 ก.ค. 2568
SHARE WITH:
28 ก.ค. 2568
28 ก.ค. 2568
SHARE WITH:
SHARE WITH:
Jony Ive และการออกแบบบทใหม่ของอนาคต



“เจาะลึกการเดินทางหลัง Apple ของ Jony Ive กับ LoveFrom บริษัทออกแบบที่เปลี่ยนแปลงเมือง Jackson Square และร่วมมือกับ Ferrari, Airbnb, และ OpenAI เพื่อสร้างอนาคตแห่งการออกแบบ”

เมื่อ Jony Ive ตัดสินใจปิดบทบาทการเป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Apple ในปี 2019 หลายคนคิดว่าอาจเป็นจุดจบของตำนานนักออกแบบผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง แต่ห้าปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ในวัย 57 ปี ชายชาวอังกฤษผู้เป็นแรงขับเคลื่อนหลักของ iPhone, iPad, iMac และ Apple Watch ยังคงมีพลังในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจได้อีกครั้ง
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้เริ่มต้นขึ้นด้วยการก่อตั้งบริษัทออกแบบใหม่ชื่อ "LoveFrom" ซึ่งแฝงความหมายอันลึกซึ้งเป็นเกียรติแก่ Steve Jobs ผู้ที่เคยกล่าวไว้ว่า วิธีหนึ่งในการแสดงความขอบคุณต่อมนุษยชาติคือ "การสร้างสรรค์บางสิ่งด้วยความเอาใจใส่และความรักอย่างยิ่งใหญ่" สะท้อนปรัชญาและเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านจากนักออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นรายละเอียดทุกมิลลิเมตร ผู้มีวิสัยทัศน์ที่มองภาพใหญ่ในการสร้างชุมชนและประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้คน
### การลงทุนใน Jackson Square: เมื่อการออกแบบมีส่วนพัฒนาเมือง

หนึ่งในโครงการที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Ive คือการลงทุนในย่าน Jackson Square ของ San Francisco อย่างจริงจัง เขาได้ซื้ออาคารหลายหลังในย่านประวัติศาสตร์แห่งนี้ การซื้ออาคารเหล่านี้เขามองไปไกลกว่าการลงทุนทางธุรกิจธรรมดา
"ผมเป็นหนี้เมืองนี้มาก พื้นที่แห่งนี้ดึงดูดผู้คนมากมายเพราะความสามารถของเมือง แต่เมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามแผน ผู้คนก็ย้ายออกไป" (After Apple, Jony Ive Is Building an Empire of His Own, The New York Times) เขาต้องการดึงดูดคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ให้กลับมาสู่ย่านนี้อีกครั้ง โดยเปลี่ยนอาคารหลังหนึ่งให้เป็นฐานที่มั่นสำหรับงานด้านยานยนต์ แฟชั่น และผลิตภัณฑ์การเดินทางของ LoveFrom ขณะที่อีกอาคารหนึ่งกลายเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัทอุปกรณ์ปัญญาประดิษฐ์แห่งใหม่ที่เขากำลังพัฒนาร่วมกับ OpenAI

### ปรัชญาการทำงานใหม่: เมื่อความรักกลายเป็นแรงขับเคลื่อน
LoveFrom บริษัทออกแบบของ Jony Ive ได้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์ที่ขับเคลื่อนด้วยปรัชญาแห่งความรักและความใส่ใจ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Steve Jobs แต่ก็มีแนวคิดการทำงานที่แตกต่างจาก Apple อย่างสิ้นเชิง แขาแบ่งแนวคิดนี้แบ่งออกเป็นสามมิติ คือ งานที่ทำด้วยความรัก (Love Work) คือสร้างผลงานที่เขามีแรงบันดาลใจเต็มเปี่ยม บางครั้งทำโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนเพราะความหลงใหลและต้องการสนับสนุนสังคม งานกับลูกค้า (Client Work) ที่ยังคงทำกับบริษัทชั้นนำอย่าง Airbnb, Ferrari และ Moncler ฯลฯ และงานเพื่อตัวเอง (Self Work) เช่นการพัฒนาอาคารและชุมชน Jackson Square แนวคิดนี้ทำให้ ทีมงานมีอิสระในการสร้างสรรค์มากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องกังวลกับแรงกดดันทางธุรกิจเสมอไป พวกเขาสามารถเลือกโครงการที่มีความหมายและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ไม่ใช่แค่ผลกำไรสูงสุดอย่างเดียวเท่านั้น

ในช่วงที่ทำงานที่ Apple เขาเป็นที่รู้จักในการควบคุมทุกรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่ความกะทัดรัดของกล่อง iPhone การจัดวางส่วนประกอบของ Apple Watch และความโค้งของทุกมุมของ iPad แต่ปัจจุบันเขาได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวางและไว้วางใจในสัญชาตญาณมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ทำให้ผลงานของเขาด้อยลง แต่กลับทำให้เกิดความสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน
ที่ LoveFrom เขาให้ความสำคัญกับการตัดสินใจโดยใช้สัญชาตญาณ การซื้ออาคารหลังหนึ่งนำไปสู่การซื้ออาคารอีกหลังหนึ่ง การสนทนาเกี่ยวกับเส้นด้ายทำให้เขาผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นชิ้นแรก และการทำงานกับลูกค้าหนึ่งรายนำไปสู่การได้พบกับพันธมิตรใหม่ การไหลไปตามสัญชาตญาณนี้กลายเป็นกุญแจสำคัญที่เปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ
### ผลงานออกแบบที่โดดเด่นหลังจากยุค Apple

แจ็คเก็ต Moncler การผสมผสานเทคโนโลยีการผลิตกับวงการแฟชั่น
หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นที่สุดของ LoveFrom คือการร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่นหรูชาวอิตาลี Moncler ในการสร้างแจ็คเก็ตที่มีรายละเอียดที่น่าสนใจและมีฟังก์ชัน โครงการนี้เริ่มต้นจากการสนทนาระหว่าง Ive กับ Remo Ruffini ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Moncler เกี่ยวกับเส้นด้ายใหม่ที่ทำจากไนลอนรีไซเคิล เขาเสนอแนวคิดการสร้างแจ็คเก็ตที่ตัดจากผ้าชิ้นเดียวโดยไม่มีตะเข็บใดๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือเสื้อคลุมขนห่านที่สามารถรูดซิปเข้าด้วยกันเพื่อสร้างแขนเสื้อได้สองแบบ สามารถแปลงร่างเป็นเสื้อคลุม เสื้อพาร์กา หรือแจ็คเก็ตแบบสนามได้ตามต้องการ จุดเด่นของแจ็คเก็ตนี้คือกระดุมแม่เหล็กที่ออกแบบเฉพาะซึ่งติดเข้าด้วยกันได้ง่ายดายเหมือนเคส AirPods กระดุมเหล่านี้สลักด้วยสัญลักษณ์ของ LoveFrom ซึ่งเป็นหมีสีน้ำตาลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธงประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย

Ferrari ในหมวดของรถยนต์ไฟฟ้า

ความร่วมมือกับ Ferrari แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Ive ในการปรับตัวเข้ากับอุตสาหกรรมใหม่ John Elkann ซีอีโอของ Exor และสมาชิกครอบครัว Agnelli ซึ่งเป็นเจ้าของ Ferrari เลือก LoveFrom เพราะชื่นชมที่ Apple Watch ของ Ive จึงได้รับมอบหมายให้ออกแบบหน้าจอสัมผัสภายในสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Ferrari โดยเฉพาะการออกแบบพวงมาลัยใหม่ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ความยาวที่เหมาะสม วิธีที่คนขับควรจับพวงมาลัย รวมถึงการยืมองค์ประกอบการออกแบบมาจากประวัติอันยาวนานของรถสปอร์ตและรถแข่งของบริษัท Elkann กล่าวด้วยความประทับใจว่า "การใส่ใจพวงมาลัยของรถที่คุณอยากขับและลักษณะทางกายภาพของพวงมาลัยเป็นสิ่งที่โจนีให้ความสำคัญมาก และได้ผลลัพธ์ที่ได้นั้นแตกต่างทั้งในแง่ของดีไซน์และฟังก์ชัน"
Airbnb และการออกแบบประสบการณ์ดิจิทัล

หนึ่งในความร่วมมือที่โดดเด่นของ LoveFrom คือโปรเจกต์ร่วมกับ Airbnb ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของ Jony Ive และทีม ในการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้อย่างไร้รอยต่อและลุ่มลึก LoveFrom ไม่ได้เพียงแค่ปรับรูปลักษณ์ของแอปฯ แต่ได้มีส่วนร่วมในการ ออกแบบระบบรีวิวใหม่ ที่เน้นความชัดเจนและความน่าเชื่อถือ แนะนำ ไอคอนสามมิติ (3D icons) เพื่อเพิ่มมิติทางอารมณ์ให้กับประสบการณ์ใช้งาน และริเริ่มแนวคิด “โปสต์การ์ดดิจิทัล” ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถแชร์ความประทับใจจากการเดินทางได้อย่างสวยงามและเป็นธรรมชาติหลังจองที่พัก ส่งเสริมการบอกต่อผ่านโซเชียลมีเดียอย่างมีศิลปะ การออกแบบในทุกขั้นตอนล้วนสะท้อนความเข้าใจลึกซึ้งในพฤติกรรมของผู้ใช้ Airbnb

LoveFrom ยังได้รับเกียรติให้ออกแบบตราสัญลักษณ์ราชาภิเษกของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งเป็นงานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และต้องการความประณีตในทุกรายละเอียด การที่ได้รับมอบหมายงานนี้แสดงให้เห็นถึงการยอมรับในระดับโลกที่มีต่อความสามารถของ Ive ในการออกแบบสัญลักษณ์ที่มีความหมาย
### เมื่ออาชีพออกแบบมีภารกิจที่อยากเปลี่ยนเมือง
การลงทุนของ Ive ใน Jackson Square ไม่ได้เป็นเพียงแค่การซื้ออสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นการลงทุนในอนาคตของชุมชน Aaron Peskin ผู้ดูแลเมืองที่เคยกังวลว่า Ive อาจรื้อถอนอาคารเก่าเพื่อสร้างตึกระฟ้า กลับเปลี่ยนความคิดหลังจากได้พบกับ Ive และเห็นแผนการอนุรักษ์อาคารที่มีอยู่
Jony Ive เสนอที่จะลดค่าเช่าให้ผู้เช่าบางราย ออกแบบให้ผู้เช่ารายอื่นฟรี และรักษารูปแบบธุรกิจที่หลากหลายในย่านนี้ไว้ การปรับปรุงพื้นที่ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2025 คาดว่าจะดึงดูดบริษัทและผู้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ให้เข้ามาในพื้นที่ บริษัทหลายแห่งได้เข้ามาตั้งสำนักงานในพื้นที่แล้ว รวมถึง Emerson Collective ที่ก่อตั้งโดย Laurene Powell Jobs และ Thrive Capital ซึ่งเป็นบริษัทเงินร่วมลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ OpenAI การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจอันลึกซึ้ง ต่อความสำคัญของสภาพแวดล้อมในการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ สร้างระบบนิเวศที่จะหล่อเลี้ยงนักคิดและนักสร้างสรรค์คนรุ่นต่อไป

### อนาคตที่น่าตื่นเต้น: ขายโครงการ io เพื่อไปสู่ AI
โครงการที่ Jony Ive ตื่นเต้นที่สุดในปัจจุบัน คือ ความร่วมมือกับ Sam Altman ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ OpenAI ในการพัฒนาอุปกรณ์ปัญญาประดิษฐ์ใหม่ ความร่วมมือนี้เริ่มต้นจากการแนะนำของ Brian Chesky ซีอีโอของ Airbnb ที่นัดให้ทั้งสองไปรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน
ในการพบปะครั้งนั้น พวกเขาได้พูดคุยเกี่ยวกับการที่ AI เชิงสร้างสรรค์เปิดโอกาสให้สามารถสร้างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ใหม่ได้ เนื่องจากเทคโนโลยีนี้สามารถทำอะไรให้กับผู้ใช้ได้มากกว่าซอฟต์แวร์แบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นการสรุปและจัดลำดับความสำคัญของข้อความ การระบุและตั้งชื่อวัตถุต่างๆ และในที่สุดสามารถจัดการคำขอที่ซับซ้อนได้สองตกลงที่จะร่วมมือผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่โดยมี LoveFrom เป็นผู้นำในการออกแบบ พวกเขาได้ระดมทุนจากภาคเอกชน โดยมี Ive และ Emerson Collective ของ Laurene Powell Jobs เป็นผู้บริจาคเงิน และอาจระดมทุนเริ่มต้นได้สูงถึงหนึ่งพันล้านดอลลาร์จากนักลงทุนด้านเทคโนโลยีภายในสิ้นปีนี้

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 Ive ได้ซื้ออาคาร Little Fox Theater ขนาด 32,000 ตารางฟุตเพิ่อเป็นสำนักงานของโครงการนี้ และได้เชิญอดีตเพื่อนร่วมงานจาก Apple อย่าง Tang Tan ผู้ดูแลการพัฒนาผลิตภัณฑ์ iPhone และ Evans Hankey ที่เคยรับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Apple ต่อจาก Ive มางานด้วยกัน
เป้าหมายของโครงการนี้คือการสร้างผลิตภัณฑ์ AI ที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่แปลกใหม่และแตกต่างจากที่โลกนี้เคยมีมา แม้ว่ารายละเอียดของผลิตภัณฑ์และวันเปิดตัวยังคงเป็นความลับ แต่การรวมตัวของนักออกแบบระดับโลกกับผู้นำด้าน AI บ่งบอกถึงสิ่งยิ่งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
เรื่องราวของ Jony Ive หลัง Apple แสดงให้เห็นว่าการเริ่มต้นใหม่นำไปสู่การสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมได้ เขาได้เปลี่ยนบทบาทจากนักออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นความสมบูรณ์แบบในรายละเอียด มาเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ที่มองเห็นภาพรวมของการสร้างชุมชน การพัฒนาเทคโนโลยี และการออกแบบประสบการณ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คน

เขามีความสามารถในการมองเห็นอนาคตและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่โลกยังไม่เคยเห็น การลงทุนใน Jackson Square และแผนการสร้างชุมชนสร้างสรรค์แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจที่ลึกซึ้งของเขาต่อความสำคัญของสภาพแวดล้อมในการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ เขาบอกว่าการทำธุรกิจที่เติบโตในละแวกนั้นจะช่วยให้เขาสามารถมีส่วนสนับสนุนการฟื้นฟูเมืองและทำให้ผู้คนกลับมาทำงานในตัวเมืองได้อีกครั้ง สร้างระบบนิเวศที่จะหล่อเลี้ยงนักคิดและนักสร้างสรรค์คนรุ่นต่อไป
“เจาะลึกการเดินทางหลัง Apple ของ Jony Ive กับ LoveFrom บริษัทออกแบบที่เปลี่ยนแปลงเมือง Jackson Square และร่วมมือกับ Ferrari, Airbnb, และ OpenAI เพื่อสร้างอนาคตแห่งการออกแบบ”

เมื่อ Jony Ive ตัดสินใจปิดบทบาทการเป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Apple ในปี 2019 หลายคนคิดว่าอาจเป็นจุดจบของตำนานนักออกแบบผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง แต่ห้าปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ในวัย 57 ปี ชายชาวอังกฤษผู้เป็นแรงขับเคลื่อนหลักของ iPhone, iPad, iMac และ Apple Watch ยังคงมีพลังในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจได้อีกครั้ง
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้เริ่มต้นขึ้นด้วยการก่อตั้งบริษัทออกแบบใหม่ชื่อ "LoveFrom" ซึ่งแฝงความหมายอันลึกซึ้งเป็นเกียรติแก่ Steve Jobs ผู้ที่เคยกล่าวไว้ว่า วิธีหนึ่งในการแสดงความขอบคุณต่อมนุษยชาติคือ "การสร้างสรรค์บางสิ่งด้วยความเอาใจใส่และความรักอย่างยิ่งใหญ่" สะท้อนปรัชญาและเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านจากนักออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นรายละเอียดทุกมิลลิเมตร ผู้มีวิสัยทัศน์ที่มองภาพใหญ่ในการสร้างชุมชนและประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้คน
### การลงทุนใน Jackson Square: เมื่อการออกแบบมีส่วนพัฒนาเมือง

หนึ่งในโครงการที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Ive คือการลงทุนในย่าน Jackson Square ของ San Francisco อย่างจริงจัง เขาได้ซื้ออาคารหลายหลังในย่านประวัติศาสตร์แห่งนี้ การซื้ออาคารเหล่านี้เขามองไปไกลกว่าการลงทุนทางธุรกิจธรรมดา
"ผมเป็นหนี้เมืองนี้มาก พื้นที่แห่งนี้ดึงดูดผู้คนมากมายเพราะความสามารถของเมือง แต่เมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามแผน ผู้คนก็ย้ายออกไป" (After Apple, Jony Ive Is Building an Empire of His Own, The New York Times) เขาต้องการดึงดูดคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ให้กลับมาสู่ย่านนี้อีกครั้ง โดยเปลี่ยนอาคารหลังหนึ่งให้เป็นฐานที่มั่นสำหรับงานด้านยานยนต์ แฟชั่น และผลิตภัณฑ์การเดินทางของ LoveFrom ขณะที่อีกอาคารหนึ่งกลายเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัทอุปกรณ์ปัญญาประดิษฐ์แห่งใหม่ที่เขากำลังพัฒนาร่วมกับ OpenAI

### ปรัชญาการทำงานใหม่: เมื่อความรักกลายเป็นแรงขับเคลื่อน
LoveFrom บริษัทออกแบบของ Jony Ive ได้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์ที่ขับเคลื่อนด้วยปรัชญาแห่งความรักและความใส่ใจ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Steve Jobs แต่ก็มีแนวคิดการทำงานที่แตกต่างจาก Apple อย่างสิ้นเชิง แขาแบ่งแนวคิดนี้แบ่งออกเป็นสามมิติ คือ งานที่ทำด้วยความรัก (Love Work) คือสร้างผลงานที่เขามีแรงบันดาลใจเต็มเปี่ยม บางครั้งทำโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนเพราะความหลงใหลและต้องการสนับสนุนสังคม งานกับลูกค้า (Client Work) ที่ยังคงทำกับบริษัทชั้นนำอย่าง Airbnb, Ferrari และ Moncler ฯลฯ และงานเพื่อตัวเอง (Self Work) เช่นการพัฒนาอาคารและชุมชน Jackson Square แนวคิดนี้ทำให้ ทีมงานมีอิสระในการสร้างสรรค์มากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องกังวลกับแรงกดดันทางธุรกิจเสมอไป พวกเขาสามารถเลือกโครงการที่มีความหมายและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ไม่ใช่แค่ผลกำไรสูงสุดอย่างเดียวเท่านั้น

ในช่วงที่ทำงานที่ Apple เขาเป็นที่รู้จักในการควบคุมทุกรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่ความกะทัดรัดของกล่อง iPhone การจัดวางส่วนประกอบของ Apple Watch และความโค้งของทุกมุมของ iPad แต่ปัจจุบันเขาได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวางและไว้วางใจในสัญชาตญาณมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ทำให้ผลงานของเขาด้อยลง แต่กลับทำให้เกิดความสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน
ที่ LoveFrom เขาให้ความสำคัญกับการตัดสินใจโดยใช้สัญชาตญาณ การซื้ออาคารหลังหนึ่งนำไปสู่การซื้ออาคารอีกหลังหนึ่ง การสนทนาเกี่ยวกับเส้นด้ายทำให้เขาผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นชิ้นแรก และการทำงานกับลูกค้าหนึ่งรายนำไปสู่การได้พบกับพันธมิตรใหม่ การไหลไปตามสัญชาตญาณนี้กลายเป็นกุญแจสำคัญที่เปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ
### ผลงานออกแบบที่โดดเด่นหลังจากยุค Apple

แจ็คเก็ต Moncler การผสมผสานเทคโนโลยีการผลิตกับวงการแฟชั่น
หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นที่สุดของ LoveFrom คือการร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่นหรูชาวอิตาลี Moncler ในการสร้างแจ็คเก็ตที่มีรายละเอียดที่น่าสนใจและมีฟังก์ชัน โครงการนี้เริ่มต้นจากการสนทนาระหว่าง Ive กับ Remo Ruffini ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Moncler เกี่ยวกับเส้นด้ายใหม่ที่ทำจากไนลอนรีไซเคิล เขาเสนอแนวคิดการสร้างแจ็คเก็ตที่ตัดจากผ้าชิ้นเดียวโดยไม่มีตะเข็บใดๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือเสื้อคลุมขนห่านที่สามารถรูดซิปเข้าด้วยกันเพื่อสร้างแขนเสื้อได้สองแบบ สามารถแปลงร่างเป็นเสื้อคลุม เสื้อพาร์กา หรือแจ็คเก็ตแบบสนามได้ตามต้องการ จุดเด่นของแจ็คเก็ตนี้คือกระดุมแม่เหล็กที่ออกแบบเฉพาะซึ่งติดเข้าด้วยกันได้ง่ายดายเหมือนเคส AirPods กระดุมเหล่านี้สลักด้วยสัญลักษณ์ของ LoveFrom ซึ่งเป็นหมีสีน้ำตาลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธงประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย

Ferrari ในหมวดของรถยนต์ไฟฟ้า

ความร่วมมือกับ Ferrari แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Ive ในการปรับตัวเข้ากับอุตสาหกรรมใหม่ John Elkann ซีอีโอของ Exor และสมาชิกครอบครัว Agnelli ซึ่งเป็นเจ้าของ Ferrari เลือก LoveFrom เพราะชื่นชมที่ Apple Watch ของ Ive จึงได้รับมอบหมายให้ออกแบบหน้าจอสัมผัสภายในสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Ferrari โดยเฉพาะการออกแบบพวงมาลัยใหม่ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ความยาวที่เหมาะสม วิธีที่คนขับควรจับพวงมาลัย รวมถึงการยืมองค์ประกอบการออกแบบมาจากประวัติอันยาวนานของรถสปอร์ตและรถแข่งของบริษัท Elkann กล่าวด้วยความประทับใจว่า "การใส่ใจพวงมาลัยของรถที่คุณอยากขับและลักษณะทางกายภาพของพวงมาลัยเป็นสิ่งที่โจนีให้ความสำคัญมาก และได้ผลลัพธ์ที่ได้นั้นแตกต่างทั้งในแง่ของดีไซน์และฟังก์ชัน"
Airbnb และการออกแบบประสบการณ์ดิจิทัล

หนึ่งในความร่วมมือที่โดดเด่นของ LoveFrom คือโปรเจกต์ร่วมกับ Airbnb ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของ Jony Ive และทีม ในการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้อย่างไร้รอยต่อและลุ่มลึก LoveFrom ไม่ได้เพียงแค่ปรับรูปลักษณ์ของแอปฯ แต่ได้มีส่วนร่วมในการ ออกแบบระบบรีวิวใหม่ ที่เน้นความชัดเจนและความน่าเชื่อถือ แนะนำ ไอคอนสามมิติ (3D icons) เพื่อเพิ่มมิติทางอารมณ์ให้กับประสบการณ์ใช้งาน และริเริ่มแนวคิด “โปสต์การ์ดดิจิทัล” ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถแชร์ความประทับใจจากการเดินทางได้อย่างสวยงามและเป็นธรรมชาติหลังจองที่พัก ส่งเสริมการบอกต่อผ่านโซเชียลมีเดียอย่างมีศิลปะ การออกแบบในทุกขั้นตอนล้วนสะท้อนความเข้าใจลึกซึ้งในพฤติกรรมของผู้ใช้ Airbnb

LoveFrom ยังได้รับเกียรติให้ออกแบบตราสัญลักษณ์ราชาภิเษกของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งเป็นงานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และต้องการความประณีตในทุกรายละเอียด การที่ได้รับมอบหมายงานนี้แสดงให้เห็นถึงการยอมรับในระดับโลกที่มีต่อความสามารถของ Ive ในการออกแบบสัญลักษณ์ที่มีความหมาย
### เมื่ออาชีพออกแบบมีภารกิจที่อยากเปลี่ยนเมือง
การลงทุนของ Ive ใน Jackson Square ไม่ได้เป็นเพียงแค่การซื้ออสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นการลงทุนในอนาคตของชุมชน Aaron Peskin ผู้ดูแลเมืองที่เคยกังวลว่า Ive อาจรื้อถอนอาคารเก่าเพื่อสร้างตึกระฟ้า กลับเปลี่ยนความคิดหลังจากได้พบกับ Ive และเห็นแผนการอนุรักษ์อาคารที่มีอยู่
Jony Ive เสนอที่จะลดค่าเช่าให้ผู้เช่าบางราย ออกแบบให้ผู้เช่ารายอื่นฟรี และรักษารูปแบบธุรกิจที่หลากหลายในย่านนี้ไว้ การปรับปรุงพื้นที่ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2025 คาดว่าจะดึงดูดบริษัทและผู้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ให้เข้ามาในพื้นที่ บริษัทหลายแห่งได้เข้ามาตั้งสำนักงานในพื้นที่แล้ว รวมถึง Emerson Collective ที่ก่อตั้งโดย Laurene Powell Jobs และ Thrive Capital ซึ่งเป็นบริษัทเงินร่วมลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ OpenAI การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจอันลึกซึ้ง ต่อความสำคัญของสภาพแวดล้อมในการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ สร้างระบบนิเวศที่จะหล่อเลี้ยงนักคิดและนักสร้างสรรค์คนรุ่นต่อไป

### อนาคตที่น่าตื่นเต้น: ขายโครงการ io เพื่อไปสู่ AI
โครงการที่ Jony Ive ตื่นเต้นที่สุดในปัจจุบัน คือ ความร่วมมือกับ Sam Altman ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ OpenAI ในการพัฒนาอุปกรณ์ปัญญาประดิษฐ์ใหม่ ความร่วมมือนี้เริ่มต้นจากการแนะนำของ Brian Chesky ซีอีโอของ Airbnb ที่นัดให้ทั้งสองไปรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน
ในการพบปะครั้งนั้น พวกเขาได้พูดคุยเกี่ยวกับการที่ AI เชิงสร้างสรรค์เปิดโอกาสให้สามารถสร้างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ใหม่ได้ เนื่องจากเทคโนโลยีนี้สามารถทำอะไรให้กับผู้ใช้ได้มากกว่าซอฟต์แวร์แบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นการสรุปและจัดลำดับความสำคัญของข้อความ การระบุและตั้งชื่อวัตถุต่างๆ และในที่สุดสามารถจัดการคำขอที่ซับซ้อนได้สองตกลงที่จะร่วมมือผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่โดยมี LoveFrom เป็นผู้นำในการออกแบบ พวกเขาได้ระดมทุนจากภาคเอกชน โดยมี Ive และ Emerson Collective ของ Laurene Powell Jobs เป็นผู้บริจาคเงิน และอาจระดมทุนเริ่มต้นได้สูงถึงหนึ่งพันล้านดอลลาร์จากนักลงทุนด้านเทคโนโลยีภายในสิ้นปีนี้

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 Ive ได้ซื้ออาคาร Little Fox Theater ขนาด 32,000 ตารางฟุตเพิ่อเป็นสำนักงานของโครงการนี้ และได้เชิญอดีตเพื่อนร่วมงานจาก Apple อย่าง Tang Tan ผู้ดูแลการพัฒนาผลิตภัณฑ์ iPhone และ Evans Hankey ที่เคยรับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Apple ต่อจาก Ive มางานด้วยกัน
เป้าหมายของโครงการนี้คือการสร้างผลิตภัณฑ์ AI ที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่แปลกใหม่และแตกต่างจากที่โลกนี้เคยมีมา แม้ว่ารายละเอียดของผลิตภัณฑ์และวันเปิดตัวยังคงเป็นความลับ แต่การรวมตัวของนักออกแบบระดับโลกกับผู้นำด้าน AI บ่งบอกถึงสิ่งยิ่งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
เรื่องราวของ Jony Ive หลัง Apple แสดงให้เห็นว่าการเริ่มต้นใหม่นำไปสู่การสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมได้ เขาได้เปลี่ยนบทบาทจากนักออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นความสมบูรณ์แบบในรายละเอียด มาเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ที่มองเห็นภาพรวมของการสร้างชุมชน การพัฒนาเทคโนโลยี และการออกแบบประสบการณ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คน

เขามีความสามารถในการมองเห็นอนาคตและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่โลกยังไม่เคยเห็น การลงทุนใน Jackson Square และแผนการสร้างชุมชนสร้างสรรค์แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจที่ลึกซึ้งของเขาต่อความสำคัญของสภาพแวดล้อมในการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ เขาบอกว่าการทำธุรกิจที่เติบโตในละแวกนั้นจะช่วยให้เขาสามารถมีส่วนสนับสนุนการฟื้นฟูเมืองและทำให้ผู้คนกลับมาทำงานในตัวเมืองได้อีกครั้ง สร้างระบบนิเวศที่จะหล่อเลี้ยงนักคิดและนักสร้างสรรค์คนรุ่นต่อไป
Text:
Chanathip K
Chanathip K
PHOTO:
-
-
Related Posts


