จากทุ่งหญ้าไอร์แลนด์ที่อุดมสมบูรณ์ สู่รสชาติระดับโลกอย่างยั่งยืน

จากทุ่งหญ้าไอร์แลนด์ที่อุดมสมบูรณ์ สู่รสชาติระดับโลกอย่างยั่งยืน

18 มิ.ย. 2568

SHARE WITH:

18 มิ.ย. 2568

18 มิ.ย. 2568

SHARE WITH:

SHARE WITH:

จากทุ่งหญ้าไอร์แลนด์ที่อุดมสมบูรณ์ สู่รสชาติระดับโลกอย่างยั่งยืน

เนื้อวัวและวัตถุดิบจากไอร์แลนด์ "จากเกาะเขียวขจีสู่จานอาหารระดับโลก ด้วยมรดกแห่งธรรมชาติและนวัตกรรมที่ยั่งยืน"

มารู้จักประเทศไอร์แลนด์ผ่านเนื้อวัวคุณภาพพรีเมียมจากประเทศที่ผลิตได้เพียงพอเลี้ยงประชากร 28 ล้านคน แม้มีคนเพียง 5 ล้าน พร้อมระบบตรวจสอบย้อนกลับที่เข้มงวดที่สุดในโลก

ในโลกของเนื้อวัวคุณภาพสูง ไม่มีประเทศใดที่สามารถเล่าเรื่องราวได้น่าหลงใหลเท่าไอร์แลนด์ จากเกาะเล็กๆ ที่มีประชากรเพียง 5 ล้านคน กลับสามารถผลิตเนื้อวัวได้เพียงพอสำหรับประชากร 28 ล้านคนต่อปี และส่งออกไปยังกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ทำให้ไอร์แลนด์กลายเป็นประเทศส่งออกเนื้อวัวรายใหญ่ที่สุดของซีกโลกเหนือ

Bord Bia Irish Food (คณะกรรมการอาหารแห่งสาธารณรัฐไอร์แลนด์) ชวนมาสัมผัสความรสชาติของเนื้อวัวไอริชผ่านคอร์สอาหาร 4 เมนู พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ในดินแดนที่ถูกขนานนามว่า"เกาะที่ได้รับพรจากธรรมชาติ"

llli ไอร์แลนด์ Ireland : เกาะแห่งธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์

ไอร์แลนด์เป็นประเทศที่ได้รับอิทธิพลจากกัลฟ์สตรีม (Gulf Stream) เป็นกระแสน้ำอุ่นที่สำคัญและมีขนาดใหญ่มากในมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งมาจากอ่าวเม็กซิโกมายังยุโรปตอนเหนือ ฝนที่ตกหนักเป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุด และไอร์แลนด์มีฤดูในการปลูกหญ้าที่ยาวนานกว่าที่อื่นในยุโรป ทำให้ทุ่งหญ้าสีเขียวเป็นพื้นที่เกษตรกรรมหลักของไอร์แลนด์

ไอร์แลนด์มีหินปูนคาร์บอนิเฟอรัสที่ทอดยาวต่อเนื่องกันยาวที่สุดในยุโรป ฐานหินปูนนี้ปกคลุมพื้นที่ใจกลางไอร์แลนด์ส่วนใหญ่ ทำให้พื้นที่เกษตรกรรมระบายน้ำได้ดี หญ้าเป็นแหล่งแคลเซียมและสารอาหารอื่นๆ ที่อุดมสมบูรณ์ จึงเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงวัว รวมไปถึงทรัพยากรใต้ดินและแร่ธาตุต่างๆ ซ่อนอยู่อีกมากมาย

Menu 1 : Irish Oysters with Soy Yuzu granite, Yuzu Jelly

หอยนางรมสดจากไอร์แลนด์ เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสถั่วเหลืองปรุงรสและยูซุเยลลี่สดชื่นและเต็มไปด้วยความสดของวัตถุดิบ สำหรับเป็นเมนูเปิดมื้อที่ปลุกเร้าสัมผัสรับรสทั้งหมด

หอยนางรมไอริชจากชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นอาหารทะเลที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะน้ำเย็นใสและสภาพแวดล้อมการเจริญเติบโตที่เหมาะสม รวมถึงเกษตรกรมีความมุ่งมั่นในวิธีการเพาะเลี้ยงแบบดั้งเดิม ทำให้หอยนางรมไอริชมีคุณภาพพิเศษด้วยความสดใหม่ จนได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคและผู้ส่งออกระดับพรีเมียม ยังเป็นสมาชิกของโครงการ Origin Green ที่มุ่งเน้นการเพาะเลี้ยงอย่างยั่งยืน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ทำให้ไอร์แลนด์กลายเป็นซัพพลายเออร์อันดับต้นของหอยนางรมคุณภาพสูงที่ตอบสนองความต้องการของตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

llli ประวัติศาสตร์อันยาวนาน: 5,000 ปีแห่งมรดกการเลี้ยงวัว

วัวเป็นส่วนหนึ่งของภูมิทัศน์ไอร์แลนด์มานานกว่า 5,000 ปี และการปรากฏตัวของวัวได้ช่วยกำหนดโครงสร้างทางการเมือง สังคม และวัฒนธรรมของประเทศ ประวัติศาสตร์ขนบธรรมเนียมที่เรียกว่า "Cattle raids" ในไอร์แลนด์ (Cattle Raids in Ireland) หมายถึง "การปล้นวัวหรือลักขโมยวัวของเผ่าหรือกลุ่มอื่น" ซึ่งเป็นเรื่องปกติและสำคัญในประวัติศาสตร์ยุคโบราณของไอร์แลนด์ โดยเฉพาะในช่วงก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 12 ที่ระบบเผ่าและเศรษฐกิจยังพึ่งพาวัวเป็นหลัก ซึ่งเป็นการที่ชุมชนใกล้เคียงจับวัวของกันและกัน ถือเป็นส่วนสำคัญในการทำสงครามไอริชมาอย่างน้อยหนึ่งพันปี

การผลิตทางการเกษตรของไอร์แลนด์ในปัจจุบันขึ้นอยู่กับเครือข่ายฟาร์มขนาดเล็ก 120,000 แห่ง การถือครองเหล่านี้ได้รับการส่งต่อมานานหลายศตวรรษจากรุ่นสู่รุ่น เช่นเดียวกับงานฝีมือและความรักในการเลี้ยงปศุสัตว์ วัวเป็นที่หวงแหนในไอร์แลนด์ เป็นหัวใจสำคัญของการเกษตรของไอริช โดยเกษตรกรมีความภาคภูมิใจอย่างมากในการปรับปรุงและพัฒนาผลผลิตอย่างต่อเนื่อง

Menu 2 : Irish Beef Tartare with horseradish cream, Egg yolk mustard cream, Pickle Shallot

เนื้อทาร์ทาร์เสิร์ฟพร้อมกับ horseradish ครีม ซอสไข่แดงมัสตาร์ด และหอมแดงดอง – เนื้อสันในดิบสับละเอียด เนื้อสัมผัสนุ่มละมุน พร้อมกลิ่นหอมเฉพาะตัวจากการเลี้ยงด้วยหญ้าสด ไม่มีกลิ่นคาวหรือกลิ่นแปลกใดๆ เนื่องจากวัวได้รับการเลี้ยงดูอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมรสชาติซอสที่กลมกล่อม ซอสไข่แดงมัสตาร์ดที่ครีมมี่และเข้มข้น และหอมแดงดองที่ให้ความเปรี้ยวกรอบ ช่วยสร้างสมดุลรสชาติในจานนี้

llli วิวัฒนาการของสายพันธุ์: จากพื้นเมืองสู่ความหลากหลายสายพันธุ์ไอริชดั้งเดิม

วัวไอริชแบบดั้งเดิม เช่น วัว Kerry (หรือที่เรียกว่า "วัวสีดำ") และ Irish Dexter เป็นศูนย์กลางของฝูงวัวของไอร์แลนด์โบราณ ในบริเวณ Farmleigh ซึ่งเป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของไอร์แลนด์สำหรับการมาเยือนประมุขแห่งรัฐในดับลิน ฝูงวัว Kerry ยังคงกินหญ้าในทุ่งหญ้าเหมือนที่พวกเขาทำมานานหลายศตวรรษ

Dexter ซึ่งเป็นสายพันธุ์ไอริชพื้นเมืองอีกสายพันธุ์หนึ่ง เป็นที่นิยมในหมู่เกษตรกรรายย่อยทั่วโลก เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดและเป็นสัตว์อเนกประสงค์ที่มีประสิทธิผลมาก

Irish Moiled ซึ่งเป็นสายพันธุ์อเนกประสงค์ที่มีสีแดงและสีขาวที่มีจุดด่างดำที่น่าสนใจ เป็นสายพันธุ์ที่หายากมากในปัจจุบัน เช่นเดียวกับ Kerry และ Dexter สายพันธุ์นี้สามารถอยู่รอดได้ในทุ่งหญ้าที่แย่มาก และผลิตเนื้อวัวที่มีลายหินอ่อนและรสชาติที่ยอดเยี่ยม

llli การปฏิวัติการเกษตรในศตวรรษที่ 18

ในศตวรรษที่ 18 ด้วยการมาถึงของการปฏิวัติการเกษตร สายพันธุ์วัวของไอร์แลนด์และรูปลักษณ์ของชนบทจะเปลี่ยนไปตลอดกาล ป่าโอ๊คที่เคยปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศถูกตัดและทุ่งนาที่ล้อมรอบด้วยพุ่มไม้เข้ามาแทนที่

การทำฟาร์มรูปแบบใหม่นี้มีศูนย์กลางอยู่ที่ทุ่งหญ้าคุณภาพสูง และสายพันธุ์ต่างๆ เช่น Shorthorn, Hereford และ Angus จะมาสร้างบ้านบนภูมิประเทศของไอริชในอีกหลายศตวรรษข้างหน้า เกษตรกรชาวไอริชมีความเป็นเลิศอย่างรวดเร็วกับสายพันธุ์ใหม่เหล่านี้ และส่งออกจำนวนหนึ่งกลับไปยังบ้านเกิดและไปยัง "โลกใหม่" ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก

Menu 3 : Slow Cook Shredded Irish Beef Ragu with riccia pasta, parmigiano

เนื้อวัวไอริชคุณภาพเยี่ยมนำมาตุ๋นแบบ slow cook ด้วยไฟอ่อนเป็นเวลานานจนเปื่อยละมุนและฉีกเป็นฝอย ผสมผสานกับซอส ragu ที่เข้มข้นสอดใส้ในแผ่นพาสต้า Riccia ช่วยให้ซอสเกาะติดได้ดีเยี่ยม ทานคู่กับชีสพาร์มิเจียโน่ที่วางมาเป็นแผ่นกรอบ ให้รสเค็มหวานที่เข้ากันอย่างลงตัว เพิ่มมิติของเนื้อสัมผัสให้สนุกยิ่งขึ้น

llli ฟาร์มที่เป็นมิตรสร้างยุคใหม่ของวัวสายพันธุ์ทวีปและได้มาตรฐานยุโรป

การมาถึงของสายพันธุ์ทวีป เช่น Charolais, Simmental และ Limousin ในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ 70 ได้เปิดบทใหม่ในเรื่องราวของวัวในไอร์แลนด์ สมาคมเพาะพันธุ์ได้ถูกจัดตั้งขึ้นสำหรับสายพันธุ์หลักทั้งหมดในไอร์แลนด์ โดยสนับสนุนให้เกษตรกรทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าคุณภาพของสัตว์เหล่านี้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน ไอร์แลนด์เป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศสำหรับหลายสายพันธุ์และแหล่งพันธุศาสตร์ที่สำคัญสำหรับเกษตรกรทั่วโลก ในไอร์แลนด์มีการผสมข้ามสายพันธุ์พื้นเมืองและสายพันธุ์ทวีปที่แตกต่างกัน และเป็นการผสมข้ามพันธุ์ที่หลากหลาย

การผลิตเนื้อวัวในไอร์แลนด์ส่วนใหญ่จะแปรรูปเมื่ออายุสองขวบขึ้นไป และวัวตัวเมียอายุระหว่าง 18 ถึง 24 เดือน การแปรรูปเนื้อวัวเป็นกิจกรรมเฉพาะที่ โดยฟาร์มมักจะอยู่ในรัศมี 50 กม. จากโรงงานที่พวกเขาให้บริการ ซึ่งหมายความว่าการขนส่งมีประสิทธิภาพและมีการควบคุมสูง และลดความเครียดต่อสัตว์ นี่เป็นข้อพิจารณาที่สำคัญเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์และคุณภาพขั้นสุดท้ายของเนื้อสัตว์ การจัดการซากเนื้อวัวได้รับการคัดเกรดตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นการประเมินที่คำนึงถึงปริมาณกล้ามเนื้อและไขมันของเนื้อสัตว์ การตัดและกระดูกเพิ่มเติมจะเกิดขึ้นตามข้อกำหนดของผู้ค้าปลีกและลูกค้าบริการด้านอาหาร

โรงงานแปรรูปเนื้อวัวและโรงฆ่าสัตว์ทั้งหมดในไอร์แลนด์ได้รับการตรวจสอบโดยกระทรวงเกษตร อาหารและทะเล โดยมีการตรวจสอบสัตวแพทย์ในสถานที่และการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอโดยฝ่ายอิสระต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามมาตรฐานของไอร์แลนด์และสหภาพยุโรปทั้งหมด

Menu 4 : Main Course - Charcoal – Grilled Irish Beef & Beef Cheek Bordelaise with creamy mashed potato, Caramelised baby carrots

ไฮไลท์สำคัญคือจานหลักสุดพิเศษที่นำเสนอความเป็นเลิศของเนื้อวัวไอริช เริ่มจากเสต็กเนื้อไอริชคัดพิเศษย่างถ่านแบบ medium rare ที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของเนื้อ grass-fed ที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและเนื้อสัมผัสนุ่มแต่ก็ยังเคี้ยวสนุกไม่เหนียวจนเกินไป กลิ่นควันจากถ่านช่วยเสริมรสชาติธรรมชาติของเนื้อให้เข้มข้นยิ่งขึ้น ปรุงแต่งด้วยเกลือทะเลคุณภาพสูงที่ชูรสหวานมันของเนื้อได้สมบูรณ์แบบ

เสิร์ฟมาพร้อมกับแก้มวัวตุ๋นในซอสเข้มข้น ที่นุ่มละลาย พร้อมกับมันฝรั่งบดครีมมี่ที่หอมเนยสดและครีม ช่วยดูดซับซอสและสร้างสมดุลกับรสเข้มของเนื้อ ประกอบด้วยเบบี้แครอทคาราเมลไลซ์ที่หวานหอมและกรอบนอกนุ่มใน เพิ่มสีสันและความสดชื่น

llli เนื้อวัวและผลิตภัณฑ์ภายใต้ Origin Green ในความยั่งยืนระดับชาติ

Origin Green เป็นโครงการความยั่งยืนด้านอาหารและเครื่องดื่มแห่งชาติของไอร์แลนด์ เป็นแห่งเดียวในโลกที่ดำเนินงานในระดับประเทศ ซึ่งรวมถึงเกษตรกรและผู้ผลิตหลัก ผู้แปรรูป และผู้ค้าปลีกที่ทำงานร่วมกันและเป็นผู้นำในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง

โครงการ Origin Green ได้บันทึกการปรับปรุงที่สำคัญในหมู่สมาชิกเกษตรกรตั้งแต่ปี 2019 เช่น การลด CO2 โดยเฉลี่ย 6.3% ต่อหน่วยเนื้อวัวจากสมาชิกที่ใช้ในการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์

Bord Bia ร่วมกับ Teagasc (หน่วยงานพัฒนาฟาร์มของไอร์แลนด์) และ Carbon Trust ในสหราชอาณาจักร ได้พัฒนาแบบจำลองการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์สำหรับการเลี้ยงเนื้อวัวในไอร์แลนด์โดยเฉพาะ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2011 มีฟาร์ม 52,000 แห่งที่เป็นสมาชิกของ Sustainable Beef and Lamb Assurance Scheme (SBLAS) ทำให้เป็นโครงการประกันระดับชาติแห่งแรกในโลกที่รวมมาตรการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ มีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสวัสดิภาพสัตว์ของระบบการเลี้ยงในทุ่งหญ้า

llli ประโยชน์ต่อสุขภาพของเนื้อวัวจากหญ้า

การศึกษาทางวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่าหญ้าเป็นอาหารตามธรรมชาติสำหรับวัวเนื้อมากกว่าธัญพืช และหญ้าทำให้เนื้อวัวไอริชมีลักษณะเฉพาะหลายประการ เช่น

การกระจายไขมันที่สม่ำเสมอ- เนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้ามีการกระจายไขมันที่สม่ำเสมอมากขึ้น (เอฟเฟกต์ 'ลายหินอ่อน') ซึ่งทำให้การรับประทานเป็นประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่สนุกสนานยิ่งขึ้น

วิตามินที่สูงขึ้น- เนื้อวัวจากหญ้ายังมีวิตามินที่สำคัญหลายชนิดในระดับที่สูงขึ้น รวมถึงวิตามินเอและแคโรทีน ทำให้เนื้อวัวไอริชมีสีเบอร์กันดีเข้มข้น

กรดไขมันที่เป็นประโยชน์- อัตราส่วนที่สูงขึ้นของกรดไขมันโอเมก้า 3 และ CLA เชื่อมโยงกับประโยชน์ต่อสุขภาพในมนุษย์ เช่น การลดคอเลสเตอรอลและลดความเสี่ยงมะเร็ง

llli อนาคตของเนื้อวัวไอริช

เนื้อวัวไอริชเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมอาหารไอร์แลนด์ โดยมีพนักงานกว่า 100,000 คนทั่วประเทศที่ทำงานในอุตสาหกรรมนี้ การกระจายการจ้างงานไปทั่วทุกภูมิภาคทำให้เนื้อวัวไอริชมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจในชนบทของไอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ส่งออกเนื้อวัวถึง 90% ของผลผลิตทั้งหมด โดยมีปริมาณการส่งออกประมาณ 500,000 ตันต่อปี และกระจายไปยังตลาดในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก

หลังจากจบมื้อเที่ยงสุดพิเศษที่ SOHO HOUSE BANGKOK ด้วยวัตถุดิบเนื้อคุณภาพและอาหารทะเลสดจากไอร์แลนด์ พร้อมได้เดินทางไปกับเรื่องราวประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของเกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สีเขียวขจี ซึ่งพวกเขาพยายามอย่างต่อเนื่องในการลดคาร์บอนฟุตปริ๊นท์ให้ได้มากที่สุด เราได้สัมผัสถึงความใส่ใจด้านความยั่งยืนและความเอาจริงเอาจังในด้านการผลิตอาหารจากวัตถุดิบที่ปลอดภัย ด้วยความห่วงใยและคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก สิ่งเหล่านี้คืออุดมการณ์ของเกษตรกรชาวไอริชที่หล่อเลี้ยงด้วยรากฐาน วัฒนธรรม และประเพณีที่มีมาอย่างยาวนาน

Bord Bia Irish Food จะนำเข้าเนื้อวัวคุณภาพเหล่านี้มาจำหน่ายในประเทศไทย โดย Go Wholesale เป็นช่องทางจำหน่ายที่แรก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเนื้อวัวและกำลังมองหารสชาติใหม่ๆ เป็นทางเลือก สามารถติดตามไปลองชิมกันได้เลย

themissionth.co ขอขอบคุณ Bord Bia Irish Food (คณะกรรมการอาหารแห่งสาธารณรัฐไอร์แลนด์) และ @accela.comms สำหรับการร่วมสร้างสรรค์ประสบการณ์อันน่าประทับใจในครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราได้รับเกียรติร่วมโต๊ะมื้อกลางวันสุดพิเศษกับ H.E. Mr. Patrick Bourne เอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ซึ่งเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้เรื่องราวเบื้องหลังอาหารไอริชอย่างลึกซึ้ง ถ่ายทอดผ่านบทสนทนาและรสชาติอาหารในแบบฉบับของวัฒนธรรมไอร์แลนด์อย่างแท้จริง เป็นมื้ออาหารที่เต็มไปด้วยคุณค่าและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่น่าจดจำ


เนื้อวัวและวัตถุดิบจากไอร์แลนด์ "จากเกาะเขียวขจีสู่จานอาหารระดับโลก ด้วยมรดกแห่งธรรมชาติและนวัตกรรมที่ยั่งยืน"

มารู้จักประเทศไอร์แลนด์ผ่านเนื้อวัวคุณภาพพรีเมียมจากประเทศที่ผลิตได้เพียงพอเลี้ยงประชากร 28 ล้านคน แม้มีคนเพียง 5 ล้าน พร้อมระบบตรวจสอบย้อนกลับที่เข้มงวดที่สุดในโลก

ในโลกของเนื้อวัวคุณภาพสูง ไม่มีประเทศใดที่สามารถเล่าเรื่องราวได้น่าหลงใหลเท่าไอร์แลนด์ จากเกาะเล็กๆ ที่มีประชากรเพียง 5 ล้านคน กลับสามารถผลิตเนื้อวัวได้เพียงพอสำหรับประชากร 28 ล้านคนต่อปี และส่งออกไปยังกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ทำให้ไอร์แลนด์กลายเป็นประเทศส่งออกเนื้อวัวรายใหญ่ที่สุดของซีกโลกเหนือ

Bord Bia Irish Food (คณะกรรมการอาหารแห่งสาธารณรัฐไอร์แลนด์) ชวนมาสัมผัสความรสชาติของเนื้อวัวไอริชผ่านคอร์สอาหาร 4 เมนู พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ในดินแดนที่ถูกขนานนามว่า"เกาะที่ได้รับพรจากธรรมชาติ"

llli ไอร์แลนด์ Ireland : เกาะแห่งธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์

ไอร์แลนด์เป็นประเทศที่ได้รับอิทธิพลจากกัลฟ์สตรีม (Gulf Stream) เป็นกระแสน้ำอุ่นที่สำคัญและมีขนาดใหญ่มากในมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งมาจากอ่าวเม็กซิโกมายังยุโรปตอนเหนือ ฝนที่ตกหนักเป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุด และไอร์แลนด์มีฤดูในการปลูกหญ้าที่ยาวนานกว่าที่อื่นในยุโรป ทำให้ทุ่งหญ้าสีเขียวเป็นพื้นที่เกษตรกรรมหลักของไอร์แลนด์

ไอร์แลนด์มีหินปูนคาร์บอนิเฟอรัสที่ทอดยาวต่อเนื่องกันยาวที่สุดในยุโรป ฐานหินปูนนี้ปกคลุมพื้นที่ใจกลางไอร์แลนด์ส่วนใหญ่ ทำให้พื้นที่เกษตรกรรมระบายน้ำได้ดี หญ้าเป็นแหล่งแคลเซียมและสารอาหารอื่นๆ ที่อุดมสมบูรณ์ จึงเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงวัว รวมไปถึงทรัพยากรใต้ดินและแร่ธาตุต่างๆ ซ่อนอยู่อีกมากมาย

Menu 1 : Irish Oysters with Soy Yuzu granite, Yuzu Jelly

หอยนางรมสดจากไอร์แลนด์ เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสถั่วเหลืองปรุงรสและยูซุเยลลี่สดชื่นและเต็มไปด้วยความสดของวัตถุดิบ สำหรับเป็นเมนูเปิดมื้อที่ปลุกเร้าสัมผัสรับรสทั้งหมด

หอยนางรมไอริชจากชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นอาหารทะเลที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะน้ำเย็นใสและสภาพแวดล้อมการเจริญเติบโตที่เหมาะสม รวมถึงเกษตรกรมีความมุ่งมั่นในวิธีการเพาะเลี้ยงแบบดั้งเดิม ทำให้หอยนางรมไอริชมีคุณภาพพิเศษด้วยความสดใหม่ จนได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคและผู้ส่งออกระดับพรีเมียม ยังเป็นสมาชิกของโครงการ Origin Green ที่มุ่งเน้นการเพาะเลี้ยงอย่างยั่งยืน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ทำให้ไอร์แลนด์กลายเป็นซัพพลายเออร์อันดับต้นของหอยนางรมคุณภาพสูงที่ตอบสนองความต้องการของตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

llli ประวัติศาสตร์อันยาวนาน: 5,000 ปีแห่งมรดกการเลี้ยงวัว

วัวเป็นส่วนหนึ่งของภูมิทัศน์ไอร์แลนด์มานานกว่า 5,000 ปี และการปรากฏตัวของวัวได้ช่วยกำหนดโครงสร้างทางการเมือง สังคม และวัฒนธรรมของประเทศ ประวัติศาสตร์ขนบธรรมเนียมที่เรียกว่า "Cattle raids" ในไอร์แลนด์ (Cattle Raids in Ireland) หมายถึง "การปล้นวัวหรือลักขโมยวัวของเผ่าหรือกลุ่มอื่น" ซึ่งเป็นเรื่องปกติและสำคัญในประวัติศาสตร์ยุคโบราณของไอร์แลนด์ โดยเฉพาะในช่วงก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 12 ที่ระบบเผ่าและเศรษฐกิจยังพึ่งพาวัวเป็นหลัก ซึ่งเป็นการที่ชุมชนใกล้เคียงจับวัวของกันและกัน ถือเป็นส่วนสำคัญในการทำสงครามไอริชมาอย่างน้อยหนึ่งพันปี

การผลิตทางการเกษตรของไอร์แลนด์ในปัจจุบันขึ้นอยู่กับเครือข่ายฟาร์มขนาดเล็ก 120,000 แห่ง การถือครองเหล่านี้ได้รับการส่งต่อมานานหลายศตวรรษจากรุ่นสู่รุ่น เช่นเดียวกับงานฝีมือและความรักในการเลี้ยงปศุสัตว์ วัวเป็นที่หวงแหนในไอร์แลนด์ เป็นหัวใจสำคัญของการเกษตรของไอริช โดยเกษตรกรมีความภาคภูมิใจอย่างมากในการปรับปรุงและพัฒนาผลผลิตอย่างต่อเนื่อง

Menu 2 : Irish Beef Tartare with horseradish cream, Egg yolk mustard cream, Pickle Shallot

เนื้อทาร์ทาร์เสิร์ฟพร้อมกับ horseradish ครีม ซอสไข่แดงมัสตาร์ด และหอมแดงดอง – เนื้อสันในดิบสับละเอียด เนื้อสัมผัสนุ่มละมุน พร้อมกลิ่นหอมเฉพาะตัวจากการเลี้ยงด้วยหญ้าสด ไม่มีกลิ่นคาวหรือกลิ่นแปลกใดๆ เนื่องจากวัวได้รับการเลี้ยงดูอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมรสชาติซอสที่กลมกล่อม ซอสไข่แดงมัสตาร์ดที่ครีมมี่และเข้มข้น และหอมแดงดองที่ให้ความเปรี้ยวกรอบ ช่วยสร้างสมดุลรสชาติในจานนี้

llli วิวัฒนาการของสายพันธุ์: จากพื้นเมืองสู่ความหลากหลายสายพันธุ์ไอริชดั้งเดิม

วัวไอริชแบบดั้งเดิม เช่น วัว Kerry (หรือที่เรียกว่า "วัวสีดำ") และ Irish Dexter เป็นศูนย์กลางของฝูงวัวของไอร์แลนด์โบราณ ในบริเวณ Farmleigh ซึ่งเป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของไอร์แลนด์สำหรับการมาเยือนประมุขแห่งรัฐในดับลิน ฝูงวัว Kerry ยังคงกินหญ้าในทุ่งหญ้าเหมือนที่พวกเขาทำมานานหลายศตวรรษ

Dexter ซึ่งเป็นสายพันธุ์ไอริชพื้นเมืองอีกสายพันธุ์หนึ่ง เป็นที่นิยมในหมู่เกษตรกรรายย่อยทั่วโลก เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดและเป็นสัตว์อเนกประสงค์ที่มีประสิทธิผลมาก

Irish Moiled ซึ่งเป็นสายพันธุ์อเนกประสงค์ที่มีสีแดงและสีขาวที่มีจุดด่างดำที่น่าสนใจ เป็นสายพันธุ์ที่หายากมากในปัจจุบัน เช่นเดียวกับ Kerry และ Dexter สายพันธุ์นี้สามารถอยู่รอดได้ในทุ่งหญ้าที่แย่มาก และผลิตเนื้อวัวที่มีลายหินอ่อนและรสชาติที่ยอดเยี่ยม

llli การปฏิวัติการเกษตรในศตวรรษที่ 18

ในศตวรรษที่ 18 ด้วยการมาถึงของการปฏิวัติการเกษตร สายพันธุ์วัวของไอร์แลนด์และรูปลักษณ์ของชนบทจะเปลี่ยนไปตลอดกาล ป่าโอ๊คที่เคยปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศถูกตัดและทุ่งนาที่ล้อมรอบด้วยพุ่มไม้เข้ามาแทนที่

การทำฟาร์มรูปแบบใหม่นี้มีศูนย์กลางอยู่ที่ทุ่งหญ้าคุณภาพสูง และสายพันธุ์ต่างๆ เช่น Shorthorn, Hereford และ Angus จะมาสร้างบ้านบนภูมิประเทศของไอริชในอีกหลายศตวรรษข้างหน้า เกษตรกรชาวไอริชมีความเป็นเลิศอย่างรวดเร็วกับสายพันธุ์ใหม่เหล่านี้ และส่งออกจำนวนหนึ่งกลับไปยังบ้านเกิดและไปยัง "โลกใหม่" ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก

Menu 3 : Slow Cook Shredded Irish Beef Ragu with riccia pasta, parmigiano

เนื้อวัวไอริชคุณภาพเยี่ยมนำมาตุ๋นแบบ slow cook ด้วยไฟอ่อนเป็นเวลานานจนเปื่อยละมุนและฉีกเป็นฝอย ผสมผสานกับซอส ragu ที่เข้มข้นสอดใส้ในแผ่นพาสต้า Riccia ช่วยให้ซอสเกาะติดได้ดีเยี่ยม ทานคู่กับชีสพาร์มิเจียโน่ที่วางมาเป็นแผ่นกรอบ ให้รสเค็มหวานที่เข้ากันอย่างลงตัว เพิ่มมิติของเนื้อสัมผัสให้สนุกยิ่งขึ้น

llli ฟาร์มที่เป็นมิตรสร้างยุคใหม่ของวัวสายพันธุ์ทวีปและได้มาตรฐานยุโรป

การมาถึงของสายพันธุ์ทวีป เช่น Charolais, Simmental และ Limousin ในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ 70 ได้เปิดบทใหม่ในเรื่องราวของวัวในไอร์แลนด์ สมาคมเพาะพันธุ์ได้ถูกจัดตั้งขึ้นสำหรับสายพันธุ์หลักทั้งหมดในไอร์แลนด์ โดยสนับสนุนให้เกษตรกรทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าคุณภาพของสัตว์เหล่านี้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน ไอร์แลนด์เป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศสำหรับหลายสายพันธุ์และแหล่งพันธุศาสตร์ที่สำคัญสำหรับเกษตรกรทั่วโลก ในไอร์แลนด์มีการผสมข้ามสายพันธุ์พื้นเมืองและสายพันธุ์ทวีปที่แตกต่างกัน และเป็นการผสมข้ามพันธุ์ที่หลากหลาย

การผลิตเนื้อวัวในไอร์แลนด์ส่วนใหญ่จะแปรรูปเมื่ออายุสองขวบขึ้นไป และวัวตัวเมียอายุระหว่าง 18 ถึง 24 เดือน การแปรรูปเนื้อวัวเป็นกิจกรรมเฉพาะที่ โดยฟาร์มมักจะอยู่ในรัศมี 50 กม. จากโรงงานที่พวกเขาให้บริการ ซึ่งหมายความว่าการขนส่งมีประสิทธิภาพและมีการควบคุมสูง และลดความเครียดต่อสัตว์ นี่เป็นข้อพิจารณาที่สำคัญเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์และคุณภาพขั้นสุดท้ายของเนื้อสัตว์ การจัดการซากเนื้อวัวได้รับการคัดเกรดตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นการประเมินที่คำนึงถึงปริมาณกล้ามเนื้อและไขมันของเนื้อสัตว์ การตัดและกระดูกเพิ่มเติมจะเกิดขึ้นตามข้อกำหนดของผู้ค้าปลีกและลูกค้าบริการด้านอาหาร

โรงงานแปรรูปเนื้อวัวและโรงฆ่าสัตว์ทั้งหมดในไอร์แลนด์ได้รับการตรวจสอบโดยกระทรวงเกษตร อาหารและทะเล โดยมีการตรวจสอบสัตวแพทย์ในสถานที่และการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอโดยฝ่ายอิสระต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามมาตรฐานของไอร์แลนด์และสหภาพยุโรปทั้งหมด

Menu 4 : Main Course - Charcoal – Grilled Irish Beef & Beef Cheek Bordelaise with creamy mashed potato, Caramelised baby carrots

ไฮไลท์สำคัญคือจานหลักสุดพิเศษที่นำเสนอความเป็นเลิศของเนื้อวัวไอริช เริ่มจากเสต็กเนื้อไอริชคัดพิเศษย่างถ่านแบบ medium rare ที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของเนื้อ grass-fed ที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและเนื้อสัมผัสนุ่มแต่ก็ยังเคี้ยวสนุกไม่เหนียวจนเกินไป กลิ่นควันจากถ่านช่วยเสริมรสชาติธรรมชาติของเนื้อให้เข้มข้นยิ่งขึ้น ปรุงแต่งด้วยเกลือทะเลคุณภาพสูงที่ชูรสหวานมันของเนื้อได้สมบูรณ์แบบ

เสิร์ฟมาพร้อมกับแก้มวัวตุ๋นในซอสเข้มข้น ที่นุ่มละลาย พร้อมกับมันฝรั่งบดครีมมี่ที่หอมเนยสดและครีม ช่วยดูดซับซอสและสร้างสมดุลกับรสเข้มของเนื้อ ประกอบด้วยเบบี้แครอทคาราเมลไลซ์ที่หวานหอมและกรอบนอกนุ่มใน เพิ่มสีสันและความสดชื่น

llli เนื้อวัวและผลิตภัณฑ์ภายใต้ Origin Green ในความยั่งยืนระดับชาติ

Origin Green เป็นโครงการความยั่งยืนด้านอาหารและเครื่องดื่มแห่งชาติของไอร์แลนด์ เป็นแห่งเดียวในโลกที่ดำเนินงานในระดับประเทศ ซึ่งรวมถึงเกษตรกรและผู้ผลิตหลัก ผู้แปรรูป และผู้ค้าปลีกที่ทำงานร่วมกันและเป็นผู้นำในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง

โครงการ Origin Green ได้บันทึกการปรับปรุงที่สำคัญในหมู่สมาชิกเกษตรกรตั้งแต่ปี 2019 เช่น การลด CO2 โดยเฉลี่ย 6.3% ต่อหน่วยเนื้อวัวจากสมาชิกที่ใช้ในการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์

Bord Bia ร่วมกับ Teagasc (หน่วยงานพัฒนาฟาร์มของไอร์แลนด์) และ Carbon Trust ในสหราชอาณาจักร ได้พัฒนาแบบจำลองการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์สำหรับการเลี้ยงเนื้อวัวในไอร์แลนด์โดยเฉพาะ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2011 มีฟาร์ม 52,000 แห่งที่เป็นสมาชิกของ Sustainable Beef and Lamb Assurance Scheme (SBLAS) ทำให้เป็นโครงการประกันระดับชาติแห่งแรกในโลกที่รวมมาตรการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ มีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสวัสดิภาพสัตว์ของระบบการเลี้ยงในทุ่งหญ้า

llli ประโยชน์ต่อสุขภาพของเนื้อวัวจากหญ้า

การศึกษาทางวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่าหญ้าเป็นอาหารตามธรรมชาติสำหรับวัวเนื้อมากกว่าธัญพืช และหญ้าทำให้เนื้อวัวไอริชมีลักษณะเฉพาะหลายประการ เช่น

การกระจายไขมันที่สม่ำเสมอ- เนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้ามีการกระจายไขมันที่สม่ำเสมอมากขึ้น (เอฟเฟกต์ 'ลายหินอ่อน') ซึ่งทำให้การรับประทานเป็นประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่สนุกสนานยิ่งขึ้น

วิตามินที่สูงขึ้น- เนื้อวัวจากหญ้ายังมีวิตามินที่สำคัญหลายชนิดในระดับที่สูงขึ้น รวมถึงวิตามินเอและแคโรทีน ทำให้เนื้อวัวไอริชมีสีเบอร์กันดีเข้มข้น

กรดไขมันที่เป็นประโยชน์- อัตราส่วนที่สูงขึ้นของกรดไขมันโอเมก้า 3 และ CLA เชื่อมโยงกับประโยชน์ต่อสุขภาพในมนุษย์ เช่น การลดคอเลสเตอรอลและลดความเสี่ยงมะเร็ง

llli อนาคตของเนื้อวัวไอริช

เนื้อวัวไอริชเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมอาหารไอร์แลนด์ โดยมีพนักงานกว่า 100,000 คนทั่วประเทศที่ทำงานในอุตสาหกรรมนี้ การกระจายการจ้างงานไปทั่วทุกภูมิภาคทำให้เนื้อวัวไอริชมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจในชนบทของไอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ส่งออกเนื้อวัวถึง 90% ของผลผลิตทั้งหมด โดยมีปริมาณการส่งออกประมาณ 500,000 ตันต่อปี และกระจายไปยังตลาดในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก

หลังจากจบมื้อเที่ยงสุดพิเศษที่ SOHO HOUSE BANGKOK ด้วยวัตถุดิบเนื้อคุณภาพและอาหารทะเลสดจากไอร์แลนด์ พร้อมได้เดินทางไปกับเรื่องราวประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของเกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สีเขียวขจี ซึ่งพวกเขาพยายามอย่างต่อเนื่องในการลดคาร์บอนฟุตปริ๊นท์ให้ได้มากที่สุด เราได้สัมผัสถึงความใส่ใจด้านความยั่งยืนและความเอาจริงเอาจังในด้านการผลิตอาหารจากวัตถุดิบที่ปลอดภัย ด้วยความห่วงใยและคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก สิ่งเหล่านี้คืออุดมการณ์ของเกษตรกรชาวไอริชที่หล่อเลี้ยงด้วยรากฐาน วัฒนธรรม และประเพณีที่มีมาอย่างยาวนาน

Bord Bia Irish Food จะนำเข้าเนื้อวัวคุณภาพเหล่านี้มาจำหน่ายในประเทศไทย โดย Go Wholesale เป็นช่องทางจำหน่ายที่แรก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเนื้อวัวและกำลังมองหารสชาติใหม่ๆ เป็นทางเลือก สามารถติดตามไปลองชิมกันได้เลย

themissionth.co ขอขอบคุณ Bord Bia Irish Food (คณะกรรมการอาหารแห่งสาธารณรัฐไอร์แลนด์) และ @accela.comms สำหรับการร่วมสร้างสรรค์ประสบการณ์อันน่าประทับใจในครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราได้รับเกียรติร่วมโต๊ะมื้อกลางวันสุดพิเศษกับ H.E. Mr. Patrick Bourne เอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ซึ่งเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้เรื่องราวเบื้องหลังอาหารไอริชอย่างลึกซึ้ง ถ่ายทอดผ่านบทสนทนาและรสชาติอาหารในแบบฉบับของวัฒนธรรมไอร์แลนด์อย่างแท้จริง เป็นมื้ออาหารที่เต็มไปด้วยคุณค่าและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่น่าจดจำ


Text:

Chanathip K

Chanathip K

PHOTO:

Mashlab.co & Courtesy of Bord Bia Irish Food

Mashlab.co & Courtesy of Bord Bia Irish Food

Related Posts